สีหลังคาบ้าน “หลุดลอก” เกิดจากอะไร ดูแลยืดอายุยังไงให้เมทัลชีทสวยทน

สีหลังคาบ้าน หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสวยงามของบ้าน และสะท้อนถึงรสนิยม สไตล์การออกแบบ และความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี  

และแน่นอนเมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งในบ้านที่ใช้วัสดุอย่าง “เมทัลชีท” เจ้าของบ้านหลายคนก็มักจะเริ่มสังเกตเห็นถึงสีหลังคาที่ซีดจาง  มีคราบด่าง หลุดลอก หรือรวมไปถึงสนิมจุดตามชายหลังคาที่อาจเกิดขึ้น  

ซึ่งปัญหาเหล่านี้ เจ้าของบ้านต้องวางแผน หรือรับมืออย่างไร เพื่อไม่ให้บ้านแสนรักต้องพบกับความทรุดโทรมในระยะยาว แสงไทยเมทัลชีท จึงได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ สีหลังคาบ้าน หลุดลอก เกิดจากอะไร พร้อมวิธีดูแลเพื่อยืดอายุเมทัลชีทให้สีสวยทน มาฝากกัน 

สีหลังคาบ้าน “หลุดลอก” คืออะไร ? 

สีหลังคาบ้าน “หลุดลอก” คือ อาการที่ชั้นสีเคลือบผิวหลังคาเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดอาการบวม พอง แตกร้าว หลุดเป็นแผ่นหรือสะเก็ดเล็ก ๆ รวมถึงสีซีดจาง ไม่สม่ำเสมอ และมีคราบด่างให้เห็นบนผิวหลังคา 

โดยสำหรับ หลังคาเมทัลชีท มักเริ่มลอกจากจุดที่โดนแดดและฝนจัดเป็นประจำ เช่น ชายคาทางทิศตะวันตก รอยต่อแผ่นหลังคา หรือบริเวณที่น้ำฝนไหลผ่านซ้ำ ๆ ซึ่งเมื่อสีของแผ่นหลังคาเริ่มมีการหลุดลอกออกไป ก็จะทำให้เห็นผิวโลหะด้านล่างได้อย่างชัดเจน 

ซึ่งหากปัญหานี้ถูกปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไป ผิวโลหะที่เปิดโล่งจะเริ่มเกิดสนิมและถูกกัดกร่อนทีละน้อย จนอาจลามไปถึงโครงสร้างหลังคาในระยะยาวนั่นเอง 

สาเหตุของ สีหลังคาบ้านลอก เกิดจากอะไร? 

สำหรับปัญหา สีหลังคาบ้านลอก นั้นไม่ได้เกิดจาก “สีที่ไม่มีคุณภาพ”  เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงหลายปัจจัย ทั้งวัสดุ วิธีการผลิต สภาพการติดตั้ง และการใช้งานจริงอีกด้วย โดยสาเหตุที่แท้จริง แบ่งออกเป็น 6 ข้อหลัก ๆ ดังนี้ 

1. การเลือกเมทัลชีทที่ระบบสีไม่ได้มาตรฐาน 

หลายครั้งเจ้าของบ้านมักมองแค่ “ราคาต่อแผ่น” โดยไม่ได้ดูว่าใช้ระบบสีอะไร เคลือบกี่ชั้น หรือเป็นเกรดสำหรับงานภายนอกจริงหรือไม่  

เพราะเมทัลชีทบางประเภท จะมีการใช้สีแบบเกรดทั่วไป ที่ไม่ได้ออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ทนแดด ทนแสงยูวีได้ในระยะยาว ซึ่งจะทำให้หลังคาบ้าน สีซีดจาง ลอกง่าย เมื่อใช้งานไปไม่กี่ปี 

2. ความหนาสีเคลือบไม่เพียงพอ 

การเคลือบชั้นสีบนเมทัลชีทที่ดี ควรมีความหนาเหมาะสมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพราะหากชั้นสีบางเกินไป เมื่อเจอแดดจัด ฝนกรด หรือเจอมลภาวะ ก็จะทำให้แผ่นหลังคาเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ จนสีเริ่มแตก ร้าว และหลุดลอกได้ง่าย  ดังนั้น ก่อนการเลือกซื้อควรสอบถามข้อมูลสินค้ากับผู้ขายอย่างละเอียด 

3. สภาพอากาศรุนแรงและแสง UV 

โดยเฉพาะสภาพอากาศเมืองไทย ที่มีแดดแรง หรือฝนตกจัดตลอดทั้งปี ซึ่งเมื่อมีอุณหภูมิผิวหลังคาสูงมากในช่วงกลางวัน สีที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ทน UV ก็จะเกิดอาการเสื่อมสภาพเร็ว เกิดการลอก ซีดจาง หรือหลุดเป็นผงอย่างรุนแรงได้ง่าย  

4. การเตรียมผิวโลหะก่อนเคลือบสีไม่ดี 

อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของปัญหาสีหลังคาบ้านลอก มักเริ่มมาจากขั้นตอนการผลิตตั้งแต่ต้น คือ “การเตรียมผิวโลหะ” ที่ไม่ดีพอ ซ่งหากผิวเมทัลชีทยังมีคราบน้ำมัน ฝุ่น คราบสกปรก หรือไม่ได้เคลือบสารกันสนิมและสารช่วยยึดเกาะก่อนลงสี ชั้นสีก็จะเกาะติดกับผิวโลหะได้ไม่แน่นเหมือนที่ควรจะเป็น 

และเมื่อหลังคาได้มีการนำไปใช้งานจริง เจอแดด เจอฝน เจอลมตลอดเวลา ก็จะทำให้สีเมทัลชีทเริ่มหลุดล่อนง่าย โดยเฉพาะบริเวณขอบแผ่น รอยดัดโค้ง หรือจุดที่โดนกระแทกและใช้งานบ่อย  

5. การติดตั้งที่ทำร้ายชั้นสี 

แม้จะเลือกเมทัลชีทคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าขั้นตอนการติดตั้งไม่ถูกวิธี ก็สามารถทำให้ชั้นสีเสียหายและลอกได้เร็วกว่าที่ควรจะเป็น เช่น กรณีที่ช่างใช้เครื่องตัดแบบใบเจียรซึ่งให้ความร้อนสูง ขอบแผ่นเมทัลชีทอาจไหม้ และทำให้สีบริเวณนั้นเสื่อมสภาพตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง  

นอกจากนี้ การใช้น็อตที่ไม่เหมาะกับงานเมทัลชีท หรือไม่มีคุณสมบัติกันสนิม ก็อาจทำให้สนิมเริ่มลามจากหัวน็อตไปยังผิวแผ่นได้ รวมถึงรอยขูด ขีด ข่วน ที่เกิดขึ้นระหว่างการยกแผ่น เดินเหยียบ หรือวางอุปกรณ์บนหลังคาโดยไม่ระวัง ล้วนเป็นจุดอ่อนที่ทำให้สีหลุดลอกง่ายขึ้น  

ซึ่งเมื่อชั้นสีด้านบนถูกทำร้าย ไม่ว่าจะมาจากการตัด ยึด หรือการใช้งานหน้างาน จุดเล็ก ๆ เหล่านี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสีลอกและการเกิดสนิมในอนาคต 

6. การดูแลรักษาที่ผิดวิธี 

นอกจากเรื่องการผลิตและการติดตั้งแล้ว วิธีดูแลรักษาหลังคาก็มีผลโดยตรงต่ออายุของ สีหลังคาบ้าน เช่นกัน เจ้าของบ้านหลายคนตั้งใจทำความสะอาดหลังคาให้ดูใหม่อยู่เสมอ แต่เผลอใช้วิธีที่รุนแรงเกินไป ไม่ว่าจะเป็น 

1. การใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง  

2. ใช้แปรงโลหะขัดแรง ๆ จนทำให้ผิวสีถลอก  

3. ปล่อยให้คราบสกปรก มูลนก ใบไม้ และเศษขยะต่าง ๆ หมักหมมอยู่บนหลังคาเป็นเวลานาน  

สิ่งเหล่านี้จะค่อย ๆ ทำให้ชั้นสีบางลง เสื่อมสภาพ และลอกหลุดได้ง่ายขึ้นในที่สุด ดังนั้น การดูแลที่เหมาะสมควรเน้นความนุ่มนวล ใช้น้ำสะอาดหรือสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิวเมทัลชีท และหมั่นจัดการคราบสะสมเป็นระยะ จะช่วยยืดอายุสีหลังคาให้สวยทนได้นานกว่าเดิม 

หากสีหลังคาเมทัลชีทบ้านลอก จะส่งผลกระทบเรื่องใดบ้าง? 

หลายคนคิดว่า “แค่สีลอก” ไม่น่าจะมีผลอะไรมาก แต่จริง ๆ แล้วสีคือเกราะป้องกันชั้นแรกของเมทัลชีท เมื่อเกราะเคลือบสีเมทัลชีทนี้พังลง ผลกระทบที่ตามมาก็จะมาเป็นแบบลูกโซ่ เช่น 

1. เสี่ยงเกิดสนิมและการกัดกร่อนของแผ่นเมทัลชีท เมื่อผิวโลหะเปลือยเปล่า แดด ฝน ความชื้น และฝนกรดจะกัดกร่อนผิวอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดสนิม จุดผุ และรูรั่วในที่สุด ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน 

2. ทำให้บ้านดูเก่า โทรมเร็วกว่าความเป็นจริง แม้โครงสร้างบ้านยังแข็งแรง แต่ถ้า สีหลังคาบ้าน ลอกเป็นดวง ๆ มีคราบสนิม ด่าง และซีด บ้านจะดูเก่าไม่น่ามองทันที โดยเฉพาะบ้านที่เน้นงานดีไซน์และโทนสีที่ต้องเข้ากับ facade ทั้งหลัง 

3. ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสูงขึ้น จากเดิมที่ควรจะอยู่ได้ยาว ๆ 10–15 ปี หากเลือกวัสดุและสีไม่ดี อาจต้องซ่อมใหม่ภายในไม่กี่ปี ทั้งค่าทาสีใหม่ ค่ารื้อเปลี่ยนแผ่น และค่าแรงช่าง ซึ่งรวมกันแล้วมีโอกาสแพงกว่าการเลือกเมทัลชีทดี ๆ ตั้งแต่แรกหลายเท่า 

4. เพิ่มความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน สีที่ลอกและซีด จะสะท้อนความร้อนได้น้อยลง ทำให้หลังคาดูดซับความร้อนมากขึ้น อุณหภูมิภายในบ้านสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ค่าไฟจากการเปิดแอร์เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว 

สีหลังคาบ้านเมทัลชีทที่ดี ควรผ่านการทดสอบอะไรบ้าง? 

เพื่อให้ สีหลังคาบ้าน สวยทน ไม่ลอกง่าย ควรเลือกแผ่นเหล็กที่ใช้ระบบสีคุณภาพสูงและผ่านการทดสอบหลายด้าน โดยทั่วไป เมทัลชีทที่ดีควรผ่านแนวคิดการทดสอบหลัก ๆ เช่น 

1. การทดสอบความทนทานต่อแสง UV และสภาพอากาศภายนอก 

เพื่อพิสูจน์ว่า สีไม่ซีด ไม่ลอกง่าย แม้โดนแดดแรง ๆ ต่อเนื่องหลายปี รวมถึงความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร้อน–เย็นซ้ำ ๆ 

2. การทดสอบการยึดเกาะของสี  

เพื่อทดสอบว่าชั้นสีเกาะผิวเมทัลชีทได้ดีหรือไม่ เมื่อผ่านการขูด ขีด งอ หรือดัดโค้ง สีไม่ควรหลุดลอกง่าย 

3. การทดสอบการดัดโค้งและขึ้นรูป 

เมทัลชีทต้องผ่านกระบวนการรีดลอน ดัดโค้ง และขึ้นรูปหน้างาน ซึ่งระบบสีที่ดี จะต้องถูกออกแบบให้รองรับแรงดัดได้ดี โดยสีไม่แตก ไม่ร้าวตามแนวลอน 

4. การทดสอบความต้านทานการกัดกร่อน 

ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศชื้น ฝนกรด หรือใกล้ทะเล การทดสอบนี้ยิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่า สีหลังคาบ้าน และผิวเมทัลชีทจะทนต่อการกัดกร่อนและสนิมได้นาน 

เลือกเมทัลชีทอย่างไร เพื่อป้องกันสีหลังคาบ้านลอก ใช้งานได้นาน 

หากไม่อยากปวดหัวกับปัญหา สีหลังคาบ้านลอก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า การเลือกเมทัลชีทให้ดีตั้งแต่ต้นคือกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยให้บ้านพักอาศัยมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน 

1. ตรวจสอบสเปกให้ชัดเจน ไม่ดูแค่ “ราคาต่อแผ่น” 

ก่อนตัดสินใจ ควรถามสเปกกับผู้ขายให้ชัด เช่น

• ความหนาของเมทัลชีท (รวมเคลือบและไม่รวม) 

• ระบบสีที่ใช้ เป็นเกรดสำหรับภายนอกหรือไม่ 

• รับประกันเรื่องสีลอก สีซีด หรือสนิมกี่ปี 

อย่าพิจารณาจากราคาถูกที่สุดเพียงอย่างเดียว เพราะหากต้องเปลี่ยนใหม่หรือซ่อมซ้ำ ค่าใช้จ่ายรวมอาจสูงกว่าการเลือกเมทัลชีทคุณภาพตั้งแต่ครั้งแรก 

2. เลือกเมทัลชีทที่ใช้ระบบสีคุณภาพ  

สำหรับบ้านพักอาศัยที่ต้องการสมดุลระหว่างราคาและความทนทาน ควรเลือกเกรดเหล็กเมทัลชีทที่ใช้ระบบสีคุณภาพ เหมาะสำหรับงานภายนอกโดยเฉพาะ โดยควรมีคุณสมบัติหลัก ๆ ดังนี้

1. ใช้ระบบสีที่ออกแบบมาให้ทนแดด ทนฝน และสภาพอากาศภายนอก 

2. มีเฉดสีหลังคาบ้านหลากหลาย ทั้งโทนโมเดิร์นเข้ม และโทนอุ่นที่แมตช์กับสไตล์บ้านและ facade ได้ง่าย 

3. ต้องผ่านมาตรฐานสากลการผลิตที่ควบคุมทั้งความหนาแผ่นและความหนาชั้นสีอย่างสม่ำเสมอ ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าเมทัลชีททั่วไป 

4. มีการรับประกันเรื่องสีและสนิมที่ชัดเจนในระยะยาว 

การดูรายละเอียดเหล่านี้ให้ครบก่อนตัดสินใจ จะช่วยลดโอกาสปัญหาสีหลังคาบ้านลอก และทำให้หลังคาใช้งานได้คุ้มค่ามากขึ้นในระยะยาว 

3. มองหาช่างติดตั้งที่มีประสบการณ์ 

แม้จะใช้เมทัลชีทดี แต่ถ้าติดตั้งผิดวิธี เช่น ใช้ใบตัดที่เผาไหม้สี ยึดสกรูผิดตำแหน่ง หรือขูดขีดผิวสีโดยไม่ได้ระวัง ก็ยังทำให้ สีหลังคาบ้าน เสียหายและเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาลอก สนิม และรั่วได้ 

ST-STANDARD เมทัลชีทเกรดคุณภาพแสงไทย สีสวยสด รับประกัน 15 ปี 

ST-STANDARD เกรดเมทัลชีทสำหรับงานหลังคาและผนังทั่วไป ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องงบประมาณและคุณภาพ เหมาะกับคนที่ต้องการวัสดุคุ้มค่า ใช้งานได้นาน ไม่ต้องซ่อมบ่อย ผ่านการรับรองตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และมีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย ทั้งงานบ้านและงานอาคารขนาดใหญ่ 

คุณสมบัติเด่นของเมทัลชีท ST-STANDARD

• ผลิตจากเหล็กเคลือบที่ได้มาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐานเทียบเท่า 

• ให้ความคุ้มค่าระยะยาว มาพร้อมการรับประกันสูงสุดถึง 15 ปี* ทั้งในเรื่องของการกัดกร่อน และการรับประกันสีซีดจาง 

• มีสีให้เลือกครบ ทั้งโทนมาตรฐาน และโทนพิเศษที่ช่วยให้ดีไซน์อาคารดูมีมิติมากขึ้น 

ST-STANDARD เหมาะกับงานแบบไหนบ้าง? 

เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป อาคารใช้สอยหลากประเภท เช่น โรงงาน โกดัง คลังสินค้า อาคารพาณิชย์ รวมถึงธุรกิจขนาดกลางที่ต้องการวัสดุแข็งแรง ดูแลง่าย และให้ความคุ้มค่าในระยะยาว 

7 วิธีดูแลรักษา สีหลังคาบ้านเมทัลชีท ให้สวยติดทน 

นอกจากการเลือกวัสดุที่ดีแล้ว การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีก็ช่วยยืดอายุ สีหลังคาบ้าน ให้สวยนานขึ้นได้มาก เช่น

1. ทำความสะอาดหลังคาเป็นระยะ โดยควรล้างคราบฝุ่น คราบตะไคร่ มูลนก และใบไม้สะสมอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง 

2. ใช้น้ำสะอาดและแปรงขนนุ่ม หรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันที่เหมาะสม ไม่ใกล้ผิวเกินไป 

3. หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง น้ำยากัดสนิม หรือน้ำยาที่มีกรด/ด่างสูง 

4. ระวังการเดินเหยียบบนหลังคา หากจำเป็นต้องขึ้นไปทำความสะอาดหรือเช็กงานช่าง ควรเดินบนแนวแป หรือบริเวณที่โครงสร้างรองรับ 

5. ไม่ลากของแข็ง เช่น บันไดเหล็ก หรืออุปกรณ์ที่มีคมบนผิวเมทัลชีทเพื่อไม่ให้เกิดรอยขูดขีดทำลายชั้นสี 

6. ตรวจเช็กบริเวณรอยต่อและสกรูยึดแผ่น โดยสังเกตว่ามีรอยสนิมรอบหัวสกรูหรือรอยต่อแผ่นหรือไม่หากพบรอยสีลอกจุดเล็ก ๆ ควรรีบซ่อมด้วยสีแต้มเฉพาะจุด เพื่อป้องกันสนิมลาม 

7. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลที่ปลอดภัยกับผิวสี หากต้องการใช้น้ำยาช่วยล้างคราบ ควรเลือกสูตรที่ระบุว่าเหมาะสำหรับผิวโลหะเคลือบสี หรือปรึกษาผู้ผลิตเมทัลชีท เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ทำร้ายชั้นสีในระยะยาว 

คำถามพบบ่อย เกี่ยวกับ สีหลังคาบ้านลอก 

Q: สีหลังคาบ้าน เริ่มซีดลง แต่ยังไม่ลอก ต้องเปลี่ยนหลังคาเลยไหม? 

A: ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งหลังทันที หากเพียงแค่ซีด สามารถประเมินร่วมกับผู้เชี่ยวชาญได้ว่า ควรทาสีเคลือบใหม่ทับ หรือควรเปลี่ยนบางส่วนที่เสื่อมมากแล้ว   

Q: ถ้าสีหลังคาบ้านลอกบางจุด สามารถทาเองเฉพาะจุดได้ไหม? 

A: สามารถทำได้ในระดับหนึ่ง หากเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ต้องเตรียมพื้นผิวดีมาก เช่น ขัดสนิมออก ล้างให้สะอาด แห้งสนิท และใช้สีรองพื้น–สีทับหน้าที่เหมาะกับโลหะภายนอก อย่างไรก็ตาม หากเริ่มลอกหลายจุด แนะนำให้ปรึกษาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินภาพรวม 

Q: ใช้เมทัลชีทถูกกว่า แต่ค่อยทาสีใหม่ภายหลังคุ้มกว่าหรือไม่? 

A: ส่วนใหญ่ไม่คุ้ม เพราะต้องเสียค่าทำสีใหม่ ทั้งค่าแรงและค่าสีคุณภาพดี ซึ่งผลลัพธ์ด้านความทนทานอาจไม่เทียบเท่ากับระบบสีจากโรงงาน 

Q: ถ้าบ้านอยู่ใกล้ทะเลหรือโรงงานอุตสาหกรรม ต้องเลือกเมทัลชีทแบบไหน? 

A: ควรเลือกเมทัลชีทที่มีการเคลือบกันสนิมและใช้ระบบสีที่ออกแบบมาสำหรับสภาวะกัดกร่อนสูงโดยเฉพาะ และควรสอบถามผู้ผลิตโดยตรงว่ารุ่นหรือซีรีส์ที่เลือก เหมาะกับโซนใกล้ทะเลหรือบริเวณฝุ่นควันอุตสาหกรรมหรือไม่ 

สรุป 

ปัญหา สีหลังคาบ้านลอก ไม่ได้เป็นแค่เรื่องความสวยงาม แต่เป็นสัญญาณว่าระบบปกป้องผิวเมทัลชีทเริ่มเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจตามมาด้วยสนิม ผุ รั่ว ความร้อนเข้าสู่ตัวบ้านมากขึ้น และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่บานปลายในอนาคต หากมองข้ามก็เหมือนปล่อยให้หลังคาค่อย ๆ เสียสภาพไปทีละนิดโดยไม่รู้ตัว 

ทางป้องกันที่ดีที่สุด คือเริ่มจากการเลือกเมทัลชีทที่ใช้ระบบสีคุณภาพ ทน UV และทนการกัดกร่อน ติดตั้งด้วยช่างมืออาชีพที่ใส่ใจไม่ทำร้ายชั้นสี และดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการทำความสะอาดและตรวจเช็กจุดเล็ก ๆ เป็นระยะ เมื่อดูครบทั้งสามเรื่องนี้ร่วมกัน คุณจะได้ สีหลังคาบ้าน ที่สวยทน ดูใหม่ได้นาน และคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวมากขึ้นอย่างชัดเจน 

ที่มา 

“สนิม” บนหลังคาเมทัลชีทเกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไข จาก แสงไทยเมทัลชีท 

QUV Accelerated Weathering Tester จาก Thermoline  

Galvanized Iron and Steel Characteristics, Uses And Problems จาก U.S. General Services Administration 

Rigorous Testing for Superior Performance จาก Metalalliance 

How To Maintain a Metal Roof จาก Berridge 

หากคุณอ่านคอนเทนต์ “สีหลังคาบ้าน “หลุดลอก” เกิดจากอะไร พร้อมวิธีดูแลเพื่อยืดอายุเมทัลชีทให้สีสวยทน” แล้วรู้สึกชอบคอนเทนต์ของเราอย่าลืมกดติดตามคอนเทนต์ของเราดี ๆ ได้ที่ 

Facebook : Sangthai Metalsheet 

LINE VOOM : http://bit.ly/3UoPqSy 

สุดท้าย หากคุณกำลังมองหาเมทัลชีทเพื่อต่อเติมโรงงาน หรือ พัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการสร้างอาคารด้วยเมทัลชีท 

ติดต่อหา แสงไทยเมทัลชีท ได้ง่าย ๆ ตามช่องทางดังต่อไปนี้ 

LINE: @sangthaigroup หรือ https://lin.ee/wF4jScw  

Call Center: 02-0249297 

Website แสงไทยเมทัลชีท: https://www.sangthaimetalsheet.com 

ดูสินค้าเมทัลชีท (Metalsheet) ทั้งหมด : https://www.sangthaimetalsheet.com/product