เช็กเลย! แผ่นเหล็กเมทัลชีทที่ดี ต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง

หลายคนเลือกใช้แผ่นเหล็กเมทัลชีทเพราะคาดหวังเรื่องความทนทาน ติดตั้งง่าย และราคาที่สมเหตุสมผล แต่ความคาดหวังนี้อาจไม่เป็นจริงเสมอไป หากไม่ได้เลือกวัสดุที่ผ่านกระบวนการผลิตและควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่า ได้วัสดุที่แข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้ยาวนาน การรู้ว่าแผ่นเหล็กที่ดีนั้นมีเครื่องยืนยันคุณภาพอะไรบ้างจึงเป็นสิ่งจำเป็น 

บทความนี้ แสงไทยเมทัลชีท ได้รวบรวมข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ เช็กเลย! แผ่นเหล็กเมทัลชีทที่ดี ต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง มาฝากกัน 

ทำไมต้องใส่ใจคุณภาพ แผ่นเหล็ก เมทัลชีท?  

คุณภาพของแผ่นเหล็กเมทัลชีท คือ ปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่กำหนดอายุการใช้งาน ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของอาคาร การละเลยคุณภาพอาจนำมาซึ่งปัญหาจุกจิกและค่าใช้จ่ายจำนวนมากในอนาคต เพื่อให้เห็นความแตกต่างระหว่างการลงทุนกับวัสดุคุณภาพกับวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างชัดเจน โดยสามารถเปรียบเทียบผลกระทบของเมทัลชีททั้ง 2 ประเภท ดังต่อไปนี้ 

แผ่นเหล็กเมทัลชีทที่ไม่ได้มาตรฐาน 

• อายุการใช้งานสั้นและเสื่อมสภาพไว เป็นสนิมและผุกร่อนง่าย ทำให้ต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนหลังคา/โครงสร้างบ่อยครั้ง 

• ปัญหารั่วซึมเรื้อรัง วัสดุเคลือบไม่ทน ทำให้สีหลุดล่อนและเกิดสนิมตามรอยต่อ นำไปสู่ปัญหารั่วซึมที่แก้ไขยาก 

• เสี่ยงต่อความปลอดภัยของโครงสร้าง ความหนาไม่เหมาะสมหรือวัสดุไม่แข็งแรงพออาจทำให้หลังคาแอ่นตัว หรือสนิมกัดกร่อนโครงสร้างเหล็กเสียหาย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอาคารโดยรวม 

แผ่นเหล็กเมทัลชีทคุณภาพสูงและได้มาตรฐาน 

• อายุการใช้งานยาวนาน ด้วยการเคลือบป้องกันสนิม (เช่น อะลูมิเนียมผสมสังกะสี) และชั้นสีที่ทนทาน ทำให้ใช้งานได้มากกว่า 30 ปี ลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซม/เปลี่ยนในระยะยาว 

• ลดปัญหารั่วซึม วัสดุเคลือบและสีคุณภาพดี ยึดเกาะแน่น ทนทานต่อการกัดกร่อน ช่วยป้องกันจุดที่อาจเกิดสนิมและรั่วซึมได้ดี 

• เสริมความแข็งแรงและความปลอดภัยของโครงสร้าง มีความหนาที่เหมาะสม ทนทานต่อแรงดึง แรงกระแทก สภาพอากาศ และรับน้ำหนักได้ดี ลดความเสี่ยงหลังคาแอ่นตัว นอกจากนี้ ยังทนไฟ และน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่น ช่วยลดภาระและเพิ่มความมั่นคงให้โครงสร้างอาคาร 

แผ่นเหล็กเมทัลชีทที่ดี ต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง? 

เมื่อเข้าใจถึงความสำคัญของคุณภาพในการเลือกเมทัลชีทแล้ว สิ่งที่สำคัญคือการรู้ลึกถึงกระบวนการทดสอบคุณภาพ ซึ่งผู้ผลิตต้องดำเนินการเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผ่นเหล็กแต่ละแผ่นมีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานที่กำหนด การทดสอบเหล่านี้จะช่วยบ่งชี้ความทนทาน และความพร้อมในการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง ซึ่งเป็นการทดสอบก่อนส่งมอบถึงมือผู้บริโภค ประกอบไปด้วยรายการต่าง ๆ ดังนี้ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Empower Steel 

1. การทดสอบความต้านทานความชื้น (Resistance to Humidity - Cleveland Test)  

เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เพื่อวัดความสามารถของแผ่นเหล็กเมทัลชีทในการทนต่อความชื้นและป้องกันการเกิดฟองหรือบวมของชั้นสี ทดสอบโดยการวางเมทัลชีทไว้ในสภาวะที่มีความชื้นสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูว่าพื้นผิวเกิดสนิมหรือมีการหลุดลอกของสีหรือไม่ การทดสอบนี้จำลองสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น ในฤดูฝนหรือพื้นที่ใกล้ทะเล เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้ามีความทนทานต่อความชื้นได้ดี 

2. การทดสอบความต้านทานต่อสภาพอากาศ (Resistance to Weathering - QUV Test) 

มีการใช้เครื่อง QUV Accelerated Weathering Tester ซึ่งจำลองสภาพแสง UV, ความร้อน และความชื้น เพื่อทดสอบการเสื่อมสภาพของสีและวัสดุในระยะเวลาที่รวดเร็ว การทดสอบนี้ช่วยประเมินว่าแผ่นเมทัลชีทสามารถทนต่อสภาพอากาศกลางแจ้ง เช่น แสงแดดและฝน เพื่อทดสอบว่าวัสดุสามารถต้านทานสภาพอากาศภายนอกได้มากน้อยแค่ไหน โดยจะดูว่ามีการซีดจาง แตก ลอก หรือเสื่อมสภาพหรือไม่หลังจากผ่านการเร่งอายุวัสดุ 

3. การทดสอบการยึดเกาะของสีแบบดัดงอ (Paint Adhesion Properties- T-Bend Test) 

การทดสอบนี้เป็นการดัดงอแผ่นเหล็กเมทัลชีทในรูปแบบตัว T (T-Bend) เพื่อดูว่าสีที่เคลือบอยู่บนผิวแผ่นจะเกิดการแตกร้าวหรือหลุดล่อนหรือไม่ การทดสอบนี้สำคัญเพื่อประเมินความยืดหยุ่นและความยึดเกาะของสีเมื่อถูกดัดงอในขณะติดตั้งหรือใช้งาน

4. การทดสอบความต้านทานการกัดกร่อน (Resistance to Corrosion - Salt Spray Test) 

ทดสอบโดยการพ่นไอน้ำเกลือ (Salt Fog) ลงบนพื้นผิวเมทัลชีทในห้องควบคุม เพื่อดูว่าแผ่นโลหะและชั้นเคลือบมีการเป็นสนิมหรือผุกร่อนเร็วหรือไม่ เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีไอทะเลหรือสารเคมี โดยการทดสอบนี้ช่วยประเมินความทนทานของชั้นสีและวัสดุเหล็กต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิม 

5. การทดสอบความต้านทานต่อการซีดจางของสี (Resistance to Colour Fading - QUV Test) 

เป็นการใช้เครื่อง QUV เช่นเดียวกับข้อที่ 2 แต่เน้นตรวจสอบการซีดจางของสีโดยเฉพาะ เมื่อสัมผัสกับแสง UV และสภาพแวดล้อมภายนอกเป็นเวลานาน สีที่ดีจะยังคงสด ไม่ซีดหรือเปลี่ยนสีเร็วจนเกินไป 

6. การทดสอบความต้านทานความร้อน (Resistance to Heat - Exposure Test) 

การทดสอบนี้เป็นการนำแผ่นเหล็กเมทัลชีทไปวางไว้ในเตาอบหรือสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อดูว่าสีและวัสดุจะเปลี่ยนแปลงหรือเสื่อมสภาพอย่างไร เช่น สีหลุดล่อน, ผิวเปลี่ยนสี หรือวัสดุเสียหาย การทดสอบนี้สำคัญสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง 

7. การทดสอบคุณสมบัติการยึดเกาะของสี (Paint Adhesion Properties - Cross Cut Test) 

ทดสอบโดยใช้ใบมีดกรีดเป็นรูปตารางบนผิวสีของแผ่นเมทัลชีทจากนั้นติดเทปกาวและดึงออก เพื่อดูว่าสีจะหลุดล่อนออกมามากน้อยแค่ไหน การทดสอบนี้ช่วยวัดความแข็งแรงของการยึดเกาะสีบนพื้นผิวเหล็ก 

8. การทดสอบความต้านทานแรงกระแทก (Resistance to Impact - Reverse Impact Test) 

เป็นการทดสอบความแข็งแรงของเมทัลชีทต่อแรงกระแทก โดยใช้เครื่องมือที่ปล่อยแรงกระแทกจากด้านหลังของแผ่น (Reverse Impact) เพื่อดูว่าผิวของแผ่นจะเกิดรอยแตกหรือหลุดล่อนหรือไม่ การทดสอบนี้ช่วยประเมินความทนทานของแผ่นเมทัลชีทในกรณีที่ได้รับแรงกระแทกในระหว่างการขนส่งหรือการติดตั้ง 

การทดสอบเหล่านี้คือกระบวนการสำคัญในการรับรองคุณภาพจากผู้ผลิต แต่สำหรับผู้บริโภค เครื่องยืนยันที่ง่ายและเชื่อถือได้ที่สุดว่าแผ่นเหล็กนั้นมีคุณภาพตามมาตรฐานและผ่านการประเมินที่จำเป็นมาแล้ว ก็คือ "มาตรฐานและการรับรองคุณภาพ" มาดูกันว่ามาตรฐานอะไรบ้างที่ควรมองหาเพื่อให้ได้เมทัลชีทที่ดี 

แผ่นเหล็กเมทัลชีทคุณภาพดี ต้องมีมาตรฐานอะไรการันตี? 

เพื่อให้มั่นใจว่าแผ่นเหล็กเมทัลชีทที่คุณเลือกได้รับการผลิตและตรวจสอบตามเกณฑ์คุณภาพที่เชื่อถือได้ การสังเกตเครื่องหมายและเอกสารรับรองมาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็น มาตรฐานต่าง ๆ เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการันตีจากหน่วยงานที่เป็นกลางว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด ซึ่งมีดังนี้ 

มาตรฐาน	รายละเอียด
มอก. 2753-2559	มาตรฐานไทยสำหรับเหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสีด้วยกรรมวิธีจุ่มร้อนและเคลือบสี กำหนดคุณสมบัติด้านความหนา การเคลือบสี และความทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะกับการใช้งานหลังคาและผนัง
ASTM (American Society for Testing and Materials)	มาตรฐานสากลที่กำหนดข้อกำหนดด้านความหนา ความแข็งแรง และความทนทานของแผ่นเหล็ก
JIS (Japanese Industrial Standards)	มาตรฐานญี่ปุ่นที่ครอบคลุมเหล็กหลายประเภท รวมถึงเหล็กแผ่นรีดเย็นและเหล็กเคลือบสี กำหนดคุณสมบัติทางเคมีและกลไก เพื่อความสม่ำเสมอและความน่าเชื่อถือในการใช้งาน
AM (Australian Standards - AS)	มาตรฐานออสเตรเลียที่เน้นการออกแบบและติดตั้งแผ่นเหล็กมุงหลังคาและผนัง รวมถึงการกำหนดน้ำหนักชั้นเคลือบและความต้านทานการกัดกร่อน
EN (European Standards)	มาตรฐานยุโรปที่กำหนดข้อกำหนดด้านคุณภาพและความปลอดภัยของเหล็กแผ่นเคลือบสีและเหล็กกล้าโครงสร้าง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานในยุโรป

มองหาวัสดุในการออกแบบบ้าน ให้แสงไทยเมทัลชีทดูแลคุณ  

ที่นี่ เราจัดจำหน่ายม้วนเหล็ก และแผ่นเมทัลชีทคุณภาพสูง ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เช่น งานมุงหลังคา งานฝ้าเพดาน และงานผนัง 

• มีเฉดสีมาตรฐาน สีพิเศษ รวมถึงลายไม้หลากหลายสไตล์ให้ได้เลือก  

• สินค้าทุกรุ่นของเรา เช่น เอ็มสตาร์, EM-PRO, EM-ONE และ EM-UNIQUE มีการผลิตอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล เช่น ASTM, JIS, AS, DIN, EN และรวมไปถึงมาตรฐาน มอก. ของไทย ที่มีการรับรองมาตรฐานสินค้า (Product Certificate) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน  

• เรามีการออกใบรับประกันสินค้าให้ เพื่อเพิ่มความสบายใจให้กับผู้ซื้อ   

• พร้อมบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงที่ โดยทีมงานมืออาชีพ   

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การทดสอบแผ่นเหล็กเมทัลชีท 

Q: มีวิธีตรวจสอบเบื้องต้นอย่างไรว่าเมทัลชีทมีคุณภาพดี? 

A: ตรวจสอบความหนาของแผ่นและชั้นเคลือบสี ดูตรามาตรฐานหรือใบรับรอง สังเกตความเรียบเนียนของสีและผิวเคลือบ  

Q: จะมั่นใจในผลการทดสอบคุณภาพเมทัลชีทได้อย่างไร? 

A: ควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือและมีเอกสารรับรองผลการทดสอบจากห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานสากล (เช่น ISO, ASTM) หรือมาตรฐาน มอก. ประกอบการตัดสินใจ 

สรุป 

การเลือกใช้แผ่นเหล็กเมทัลชีทคุณภาพสูงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความทนทาน ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของอาคารในระยะยาว การละเลยคุณภาพอาจนำมาซึ่งปัญหาอย่างสนิม การรั่วซึม หรือการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ดังนั้นการรู้ข้อมูลว่าต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้างจึงจะสามารถช่วยให้ตัดสินใจได้มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านความทนทานต่อความชื้น สภาพอากาศ การกัดกร่อน ความซีดจาง การยึดเกาะของสี ความต้านทานความร้อนและแรงกระแทก  

นอกจากนี้การมองหาและการตรวจสอบมาตรฐานและการรับรองคุณภาพ จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น มาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐานสากลต่าง ๆ คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเสมือนเครื่องหมายการันตีว่าแผ่นเหล็กนั้นได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบ และมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้แล้วนั่นเอง

หากคุณอ่านคอนเทนต์ “เช็กเลย! แผ่นเหล็กเมทัลชีทที่ดี ต้องผ่านการทดสอบอะไรบ้าง” แล้วรู้สึกชอบคอนเทนต์ของเราอย่าลืมกดติดตามคอนเทนต์ของเราดี ๆ ได้ที่ 

Facebook : Sangthai Metalsheet 

LINE VOOM : http://bit.ly/3UoPqSy 

สุดท้าย หากคุณกำลังมองหาเมทัลชีทเพื่อต่อเติมบ้าน หรือ พัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ด้วยแผ่นเมทัลชีท 

ติดต่อหา แสงไทยเมทัลชีท ได้ง่าย ๆ ตามช่องทางดังต่อไปนี้ 

LINE: @sangthaigroup 

Call Center: 02-0249297 

Website แสงไทยเมทัลชีท: https://www.sangthaimetalsheet.com 

ดูสินค้าเมทัลชีท (Metalsheet) ทั้งหมด : https://www.sangthaimetalsheet.com/product 

ที่มา: 

EM-Quality จาก Empower Steel