กันไว้ดีกว่าแก้! 5 เทคนิคดูแลบ้านให้ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน
- Sangthai Metalsheet
- 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- ยาว 1 นาที

เมื่อฤดูฝนมาถึง ปัญหาที่ตามมาสำหรับเจ้าของบ้านมักหนีไม่พ้นเรื่องน้ำรั่วซึม ความชื้น เชื้อรา และแมลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมารบกวนการอยู่อาศัยของสมาชิกภายในบ้าน การดูแลรักษาบ้านในช่วงหน้าฝน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากละเลยไป อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้
บทความนี้ แสงไทยเมทัลชีท จะพาไปรู้จัก 5 เทคนิคดูแลบ้านหน้าฝนให้ปลอดภัย ซึ่งสามารถลงมือทำได้ด้วยตัวเอง พร้อมช่วยยืดอายุบ้านให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจตลอดฤดูฝนนี้
ทำไมการดูแลบ้านหน้าฝนจึงสำคัญกว่าที่คิด?
การดูแลบ้านช่วงหน้าฝนสำคัญกว่าที่คิด หากปล่อยปละละเลยหรือมองข้ามไป ก็อาจส่งผลเสียต่อตัวบ้านและสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ เพราะฝนที่ตกต่อเนื่องสามารถก่อให้เกิดความชื้นสะสมจนเป็นต้นตอของเชื้อรากลิ่นอับ และเป็นแหล่งรวมของแมลงชนิดต่าง ๆ นอกจากนี้ น้ำฝนอาจรั่วซึมไปตามหลังคา ผนัง หรือพื้นบ้าน จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องซ่อมแซมในราคาสูง การดูแลบ้านฤดูฝนจะช่วยยืดอายุบ้านให้อยู่ในสภาพดี พร้อมสร้างความปลอดภัยและความสบายใจให้ผู้อยู่อาศัยได้ตลอดฤดูฝน โดยมี 5 เทคนิคดูแลบ้านหน้าฝนให้ปลอดภัยดังนี้
1. ตรวจเช็กหลังคาและรอยรั่วซึม
จุดแรกของการดูแลบ้านช่วงฝนตกหนักให้มีประสิทธิภาพ คือการตรวจสอบหลังคา เพราะหลังคาคือด่านแรกที่ป้องกันฝนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน หากมีรอยร้าว กระเบื้องแตก หรือซีลยางเสื่อมสภาพ ควรรีบซ่อมแซมทันที เพราะการป้องกันไว้ก่อนจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมใหญ่หลังน้ำรั่วเข้าบ้าน และยังช่วยยืดอายุวัสดุโครงสร้างของบ้านอีกด้วย
วิธีตรวจเช็กหลังคาในช่วงหน้าฝน
ใช้สายตาสำรวจรอบ ๆ หลังคาทั้งภายในและภายนอก
เปิดฝ้าเพดานในบ้านดูว่ามีรอยน้ำซึมหรือคราบชื้นหรือไม่
ใช้น้ำฉีดทดสอบจำลองฝนตกเพื่อดูการไหลของน้ำ
2. ทำความสะอาดรางน้ำและท่อน้ำทิ้ง
รางน้ำฝนและท่อน้ำทิ้งที่อุดตันด้วยเศษใบไม้ ขยะ หรือดินทราย จะทำให้น้ำไหลไม่สะดวก จนน้ำล้นย้อนกลับเข้าบ้านได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในช่วงหน้าฝน ซึ่งการดูแลใส่ใจรางน้ำและท่อน้ำทิ้งในช่วงฝนตกหนัก จะช่วยให้บ้านแห้งสบาย ปลอดภัยจากน้ำขัง และความชื้นสะสม
แนวทางดูแลรางน้ำและท่อน้ำทิ้งของบ้านในช่วงหน้าฝน
กำจัดสิ่งอุดตันในรางน้ำทุก 1-2 เดือน
ตรวจสอบการไหลของน้ำในท่อเมื่อลองเปิดน้ำจากดาดฟ้า
ติดตั้งตะแกรงกรองเศษขยะตรงทางลงรางน้ำ เพื่อป้องกันสิ่งอุดตันตั้งแต่ต้นทาง
3. ป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับภายในบ้าน
เพราะในหน้าฝนอากาศจะมีความชื้นสูง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอับภายในตัวบ้านได้ โดยเฉพาะในห้องน้ำ ห้องครัว ห้องเก็บของ หรือพื้นที่อับลมตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน การป้องกันปัญหาดังกล่าวจะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพของผู้อยู่อาศัยดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายของเชื้อราที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
เทคนิคป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับภายในบ้าน
เปิดหน้าต่างให้มีการถ่ายเทอากาศในวันที่อากาศดี
ใช้เครื่องดูดความชื้นหรือถ่านไม้ไผ่ดูดกลิ่นวางไว้ตามจุดเสี่ยง
หมั่นเช็ดถูพื้นผิวต่าง ๆ ที่มีความชื้นสะสม เช่น กรอบหน้าต่าง ประตูไม้ ผนังห้องน้ำ
4. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและปลั๊กไฟให้ปลอดภัย
ในช่วงฝนตกหนัก หรือเกิดน้ำท่วมฉับพลัน หากระบบไฟฟ้าไม่ได้รับการตรวจสอบ อาจเกิดไฟฟ้ารั่ว ไฟดูด หรือไฟไหม้ได้ ดังนั้น การดูแลบ้านหน้าฝน จึงต้องรวมไปถึงการดูแลระบบไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย ซึ่งไม่เพียงปกป้องบ้าน แต่ยังช่วยรักษาชีวิตและความปลอดภัยของคนในบ้านอีกด้วย
สิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า
ตรวจสอบปลั๊กไฟให้อยู่สูงจากระดับพื้น ไม่ติดตั้งบริเวณที่มีโอกาสน้ำขัง
หมั่นตรวจดูสายไฟว่าเก่าเกินไปหรือไม่
หากพบสัญญาณไฟฟ้าผิดปกติ เช่น กลิ่นไหม้ ไฟกระพริบ ควรเรียกช่างไฟฟ้ามืออาชีพทันที
5. ป้องกันแมลงและสัตว์มีพิษที่อาจเข้าบ้าน
หน้าฝนมักเป็นฤดูที่แมลงต่าง ๆ เช่น มด ปลวก ยุง รวมถึงสัตว์เลื้อยคลานอย่างงูหรือกบ เข้ามาหลบฝนในบ้าน การดูแลบ้านหน้าฝน จึงควรรวมถึงการป้องกันและจัดการสัตว์เล็ก ๆ เหล่านี้ด้วย เพราะนอกจากสร้างความน่ารำคาญให้กับผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังเป็นพาหะของเชื้อโรค หากจัดการตั้งแต่ต้นเหตุ จะช่วยให้บ้านปลอดภัยตลอดฤดูฝน
แนวทางป้องกันสัตว์ต่าง ๆ เข้ามาในบริเวณบ้านในช่วงหน้าฝน
อุดรอยรั่วตามขอบประตู หน้าต่าง และช่องใต้บันได
ทำความสะอาดสนามหญ้า ไม่ให้รกหรือมีน้ำขัง
ใช้สมุนไพรหรือสเปรย์ไล่แมลงแบบปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
กำจัดโอ่งหรือบ่อที่มีน้ำขัง ซึ่งอาจเป็นแหล่งเพาะพันธ์ของยุงได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การดูแลบ้านในช่วงหน้าฝน
Q: ควรตรวจเช็กอะไรบ้างก่อนเข้าสู่ฤดูฝน?
A: ก่อนเข้าฤดูฝน ควรตรวจสอบหลังคา รางน้ำฝน ระบบไฟฟ้า ประตู-หน้าต่าง และจุดที่อาจมีน้ำรั่วซึม เช่น ฝ้าเพดาน ผนัง และพื้นรอบบ้าน
Q: ทำไมต้องทำความสะอาดรางน้ำฝนเป็นประจำ?
A: เพราะรางน้ำฝนที่อุดตันจะทำให้น้ำไหลย้อนเข้าบ้าน เสี่ยงเกิดความเสียหายต่อผนังและโครงสร้าง รวมถึงสร้างแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
Q: หากบ้านมีปัญหาน้ำรั่วซึมบ่อย ควรทำอย่างไร?
A: ควรหาจุดรั่วซึมให้เจอโดยใช้วิธีฉีดน้ำทดสอบ แล้วใช้วัสดุกันซึมหรือเคลือบผิว เช่น ซิลิโคนกันน้ำ หรือซีเมนต์ยืดหยุ่นเพื่ออุดรอยรั่ว หรือปรึกษาช่างมืออาชีพสำหรับงานใหญ่
สรุป
การดูแลบ้านหน้าฝน ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หากรู้จักวางแผนและหมั่นตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหวังว่า 5 เทคนิคที่ในบทความนี้จะช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัย แห้งสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำรั่ว ไฟฟ้ารั่ว หรือปัญหาสุขภาพที่มาจากเชื้อราและแมลง เพราะการเริ่มต้นดูแลตั้งแต่วันนี้ ย่อมดีกว่าการแก้ไขเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว เพราะบ้านคือที่พักใจ ที่ควรจะน่าอยู่และปลอดภัยทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฝนโปรยปราย
หากคุณกำลังมองหาวัสดุที่ทนทานต่อฝนและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยในไทย หลังคาเมทัลชีทจากแสงไทย คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยคุณสมบัติกันรั่วซึม ทนสนิม และมีเทคโนโลยีเคลือบพิเศษช่วยลดเสียงฝนตก เหมาะกับบ้านเมืองไทยที่ต้องเจอกับฝนแรงบ่อยครั้ง
หากคุณอ่านคอนเทนต์ “กันไว้ดีกว่าแก้! 5 เทคนิคดูแลบ้านให้ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน” แล้วรู้สึกชอบคอนเทนต์ของเราอย่าลืมกดติดตามคอนเทนต์ของเราดี ๆ ได้ที่
Facebook : Sangthai Metalsheet
สุดท้าย หากคุณกำลังมองหาเมทัลชีทเพื่อต่อเติมบ้าน หรือ พัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ด้วยแผ่นเมทัลชีท
LINE: @sangthaigroup
Call Center: 02-0249297
Website แสงไทยเมทัลชีท: https://www.sangthaimetalsheet.com
ดูสินค้าเมทัลชีท (Metalsheet) ทั้งหมด : https://www.sangthaimetalsheet.com/product
Commenti